Use this space to put some text. Update this text in HTML

Supawich L.. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

บทความที่ได้รับความนิยม

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ส่วนประกอบของเมนบอร์ด(Mainboard) แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ส่วนประกอบของเมนบอร์ด(Mainboard) แสดงบทความทั้งหมด

พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ

พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ก็คือ ตำแหน่งหัวต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งจะอยู่ด้านหลังเมนบอร์ด(Mainboard) โดยหัวต่อเหล่านี้ใช้ต่อกับอุปกรณ์อย่างเช่น คีย์บอร์ด เมาส์ เครื่องพิมพ์ หรืออุปกรณ์ที่จะนำมาต่อใช้งานร่วมกับคอมพิิวเตอร์ ซึ่งลักษณะของหัวต่อจะแตกต่างกันออกไป ไม่ต้องกังวลว่าเราจะเสียบผิด เนื่องจากหัีวต่อแต่ละแบบจะมีมาตรฐานอยู่แล้ว อีกทั้งมีสีที่แตกต่าง เพื่อให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ทำได้ง่ายขึ้น

หัวต่อสวิตช์ควบคุม

ลักษณะของหัวต่อ
หัวต่อสวิตช์ควบคุม ช่องสำหรับเสียบสายสวิตช์ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์คือตำแหน่งของสายจะอยู่ด้านหน้าเคส(Case) เพื่อใช้ควบคุมการเปิด/ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าหากใครเคยประกอบคอมพิวเตอร์มาก่อนจะทราบดี และยังใช้ในการรีเซตเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงหลอดไฟแสดงสถานะการทำงานของเครื่องและฮาร์ดดิสก์ ลักษณะของหัวต่อจะมีขนาดเล็กอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการต่อ

ชิปรอมไบออส (ROM BIOS)

ชิปรอมไบออส (ROM BIOS) เป็นหน่วยความจำแบบรอม(ROM :Read Only Memory)ที่บรรจุโปรแกรมควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เอาไว้ โดยไบออส(BIOS :Basic Input Output System)จะทำหน้าที่ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในเครื่องเมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะได้เริ่มกระบวนการในการเปิดเครื่องได้อย่างถูกต้อง

ถ้าหากชิปรอมไบออส (ROM BIOS)ตรวจพบความผิดปกติของอุปกรณ์ ก็จะส่งเสียงเป็นรหัสออกทางลำโพงของเครื่อง(Speaker)ซึ่งจะเป็นลำโพงเล็กๆที่ติดตั้งบนเมนบอร์ด(Mainboard)ลักษณะของเสียงที่ส่งออกมาจะเป็นเสียงปี๊บๆสั้นยาวแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความผิดปกติของอุปกรณ์ วงจรชิปไบออส จะต้องมีแบตเตอร์รี่เพื่อทำหน้าที่บันทึกค่าการทำงานของไบออส เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ตั้งสูญหายไปเมื่อปิดเครื่อง และใช้จ่ายไฟให้กับวงจรนาฬิกาในไบออสเพื่อให้นาฬิกาของเครื่องเดินตามปกติ

หัวต่อแหล่งจ่ายไฟ(Power Supply)

หัวต่อแหล่งจ่ายไฟ(Power Supply) จะมีรูปแบบแหล่งจ่ายไฟอยู่ทั้งหมด 2 แบบ คือหัวแบบ ATX ซึ่งเป็นหัวต่อหลักที่เมนบอร์ด(Mainboard)ทุกรุ่นนั้นต้องมี เป็นชุดจ่ายไฟหลักสำหรับเมนบอร์ด(Mainboard) เมื่อก่อนหัวต่อ ATX จะเป็นแบบ 20 ช่อง(2 แถว แถวละ 10 ช่อง) ปัจจุบันจะเป็น 24 ช่อง(2 แถว แถวละ 12 ช่อง)โดยเพิ่มตำแหน่งของการจ่ายไฟให้มากขึ้น

หัวต่อแบบที่ 2 เรียกว่า ATX 12V หัวต่อชนิดนี้จะเพิ่มการจ่ายแรงดันไฟฟ้า 12 โวต์ขึ้นมาซึ่งเมนบอร์ด(Mainboard)ทุกรุ่นในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้หัวต่อชนิดนี้เพิ่มขึ้นมาจากหัวต่อเดิม และแหล่งจ่ายไฟ(Power Supply) ในปัจจุบันก็ทำหัวต่อชนิดนี้ไว้ให้อยู่แล้ว

หัวต่อไดรว์ต่างๆ

เปรียบกันนะครับตัวล่างเป็น SATA ตัวบนเป็น IDE
หัวต่อของไดรว์ต่าง จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ด้วยกัน คือหัวต่อสำหรับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์หรือเรียกง่ายๆ โบราณๆ ก็ แผ่นดิสก์นั่นแหละครับ อย่างที่สองคือหัวต่อสำหรับฮาร์ดดิสก์(Harddisk)และไดรว์CD/DVD หัวต่อฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์มีจำนวนขา 34 ขา(เข็มที่จะไม่มีนะครับเค้าทำเพื่อป้องกันการเสียบผิดนั่นเอง)ใช้เชื่อมต่อกับไดรว์ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ส่วนหััวต่อฮาร์ดดิสก์(Harddisk)และไดรว์ CD/DVD ปัจจุบันนิยม 2 แบบคือ

  • หัวต่อแบบ IDE มีลักษณะเหมือนฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ แต่มีจำนวนเข็ม 40 ขา (เข็มที่ 20 จะไม่มี) เมนบอร์ด(Mainboard)รุ่นใหม่จะมีหัวต่อแบบ IDE มาเพียงช่องเดียว เนื่องจากความนิยมที่ลดน้อยลง  แต่ละหัีวต่อจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 2 ตัวขนานกันในสายเพียงสายเดียว การเชื่อมต่อแบบ IDE นี้เรียกว่า เอทีเอแบบขนาน (Parallel ATA)
  • หัวต่อแบบ Serial ATA (SATA) มีขนาดเล็กกว่าแบบ IDE การรับ/ส่งข้อมูลจะใช้การต่อแบบอนุกรม การเชื่อมต่อแบบ Serial ATA (SATA) มีอัตราการรับ/ส่งข้อมูลที่สูงกว่าคือ 150 MB/s ปัจจุบัน Serial ATA (SATA) ได้รับการพัฒนาให้มีอัตราการรับ/ส่งข้อมูลให้สูงขึ้นถึง 300 MB/s และ 600 MB/s กันเลยทีเดียว

สล็อต PCI

สล็อต PCI (Peripheral Component Interconnect) เป็นสล็อตขนาดเล็กอยู่บนเมนบอร์ด(Mainboard) ซึ่งมีความแตกต่างจากสล๊อต PCI Express x16 ที่เป็นสล๊อตสำหรับการ์ดจอ(Graphic Card Slot)ทำงานที่ความเร็ว 33 MHz และส่งข้อมูลที่ 32 บิต ทำให้มีอัตราการรับ/ส่งข้อมูลที่ 133 MB/s สล๊อต PCI  ทำหน้่าที่สำหรับติดตั้งการ์ดที่เป็นอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น การ์ดเสียง การ์ดโมเด็ม หรือการ์ดแลน เป็นต้น

สล็อตของการ์ดจอ (Graphic Card Slot)

Slot PCI Express x16
สล็อตของการ์ดจอ (Graphic Card Slot) คือ สล็อตที่ใช้สำหรับใส่การ์ดจอบนเมนบอร์ด(Mainboard) หลักๆ มีอยู่ 2 แบบ คือ AGP(Accelerate Graphic Port) และสล็อต PCI Express x16 ลักษณะของทั้ง 2 สล็อตนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเมนบอร์ดรุ่นใหม่จะนิยมใช้สล็อต PCI Express x16 ทั้งหมดแล้ว เพราะว่าประสิทธิภาพในการรับ/ส่งขอมูลระดับ 4GB/s ซึ่งสูงกว่า AGP 8x ถึง 2 เท่า
Slot AGP 8x

ซ็อกเก็ตแรม (RAM Socket)

ซ็อกเก็ตแรม (RAM Socket) คือ ช่องที่ไว้สำหรับใส่แรม(RAM : Random Access Memory) ซึ่งจะถูกติดตั้งไว้บนเมนบอร์ด(Mainboard) ซึ่งซ๊อกเก็ตแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันออกไป สังเกตได้จากรอยบาก ซึ่งเมนบอร์ด(Mainboard)แต่ละตัวจะรองรับแรม(RAM : Random Access Memory) ที่ไม่เหมือนกัน ต้องสังเกตว่าเมนบอร์ดที่ซื้อนั้นใช่ซ๊อกเก็ตแรมแบบไหน ปัจจุบันก็มีตั้งแต่รุ่นเก่า คือ SDRAM ไปจนถึงแรม(RAM : Random Access Memory) DDR , DDR2 และ DDR3  เป็นต้น


ชิปเซต (Chipset)

ชิปเซต (Chipset) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานต่างๆ ของอุปกรณ์ภายในทั้งหมดที่อยู่เมนบอร์ด(Mainboard) และชิปเซตจะเป็นตัวกำหนดว่าใช่่ร่วมกับซีพียู(Central Processing Unit) ตัวไหน เพราะชิปเซตแต่ละตัวนั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของซีพียู(Central Processing Unit) ตัวนั้นให้มีประสิทธิภาพ ชิปเซตนั้นจะมีอยู่ 2 แบบ คือ North Bridge ที่ทำหน้าที่รับ/ส่งการทำงานของซีพียู(CPU)และแรม(RAM)และ South Bridge ที่มีขนาดเล็กกว่า  North Bridge มีหน้าที่ควบคุมสล็อต PCI , ดิสก์ไดรว์ต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น คีย์บอร์ด เมาส์ หรือพอร์ตต่างๆ ที่อยู่ด้านหลังเครื่อง

ซ็อกเก็ตซีพียู (CPU Socket)

Socket 775
ซ็อกเก็ตซีพียู(CPU Socket)เป็นตำแหน่งสำหรับติดตั้งซีพียู(CPU) รูปแบบซ็อกเก็ตจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของซีพียู(CPU)การซื้อเมนบอร์ด(Mainboard)มาใช้งานนั้นจึงต้องตรวจสอบว่า เมนบอร์ด(Mainboard)ที่เราซื้อนั้นใช้กับซีพียู(CPU)ตัวไหน ในปัจจุบันที่นิยมกันจะมี 4 แบบ คือ LGA 775 สำหรับ Core 2 ,Socket AM2+/AM3 สำหรับ AMD ตลอดจน LGA 1366 ของ Core i7 และ LGA 1156 สำหรับ Core i3/i5




Socket LGA 1156

Socket AM3
Socket AM2+
Socket LGA 1366

ads by nuffnang